www.rocketsdata.tht.in  

วันว่างของครอบครัวมารวมตัวประดิษฐ์จรวดน้ำสร้างความอบอุ่น                                                                                                                                                                       
 
 สถิติวันนี้ 10 คน
 สถิติเมื่อวาน 6 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
313 คน
2116 คน
332701 คน
เริ่มเมื่อ 2009-06-17

     การแข่งขันจรวดขวดน้ำระดับประเทศของอพวช.ครั้งที่ 7 ปี 2551

    จากการจัดการแข่งขันของทุกภาคและมีทีมที่นำฐานยิงจรวดและระบบปลดล๊อคจรวด 2 ท่อนไปใช้ในการแข่งขัน

    ทำให้สามารถผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาได้ของทุกภาคมีทีมดั้งนี้

          ภาคเหนือตอนล่าง ระดับประถมศึกษาโรงเรียนบ้านแก่งสฤษดิ์เสนาอุปภัมภ์ 2 ทีมใช้ระบบปลดล๊อคด้วยกระบอกบูสเตอร์

                              ระดับมัธยมศึกษาโรงเรียนบ้านแก่งสฤษดิ์เสนาอุปภัมภ์ 1 ทีมใช้ระบบปลดล๊อคด้วยกระบอกบูสเตอร์

                                                        โรงเรียนอุดมดรุณี                          1 ทีมใช้ระบบปลดล๊อคจรวด 2 ท่อนด้วยลมเป็นตัวปลด

                                                         โรงเรียนวัดคุ้งยางใหญ่                 1 ทีมใช้ฐานยิงจรวดรุ่น ALADIN4 M1 

        ภาคเหนือตอนบน  ระดับประถมศึกษา โรงเรียนบ้านหนองนาว              2  ทีมใช้ชุดปลดล๊อค N2

                                 ระดับมัธยมศึกษา  โรงเรียนแม่สรวยวิทยาคม          2 ทีมใช้ฐานยิงรุ่น TOPGUN ใช้ระบบปลดล๊อคด้วยกระบอกบูสเตอร์

         ภาคอีสานตอนบน     ระดับประถมศึกษา โรงเรียนเทศบาล 2 เชิงชุมอนุชนวิทยา 1 ทีม

                                   ระดับประถมศึกษา โรงเรียนพระซองสามัคคีวิทยา             1 ทีม ใช้ระบบปลดล๊อคจรวด 2ท่อนด้วยลมเป็นตัวปลด

                                                                โรงเรียนเทศบาล 2 เชิงชุมอนุชนวิทยา 2 ทีม ใช้ระบบปลดล๊อคด้วยกระบอกบูสเตอร์

         ภาคใต้                    ระดับประถมศึกษา  โรงเรียนบ้านส้านแดง                        2  ทีมใช้ฐานยิงรุ่นALADIN4M1และระบบบูสเตอร์ด้วยลมเป็นตัวปลด

                                                               โรงเรียนอนุบาลปัตตานี                    1 ทีม ใช้ระบบปลดล๊อคจรวด 2 ท่อนด้วยลมเป็นตัวปลด

                                                               อนุบาลสาธิต มอ.ปัตตานี                   1ทีม ใช้ระบบปลดล๊อคจรวด 2 ท่อนด้วยลมเป็นตัวปลด

                                 ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนสวนศรีวิทยา                         2 ทีมใช้ระบบปลดล๊อคด้วยกระบอกบูสเตอร์และเชื่อกกระตุก

       ภาคตะวันออก    ระดับประถมศึกษา โรงเรียนวัดกลาง                               1 ทีมใช้ระบบปลดล๊อคจรวด 2 ท่อนด้วยลมเป็นตัวปลด

                                 ระดับมัธยมศึกษาโรงเรียนนวมินทราชูทิศกทม.               1 ทีมใช้ระบบปลดล๊อคจรวด 2 ท่อนด้วยกระบอกบูสเตอร์และเพิ่มท่อเก็บลมเพิ่มทั้ง 2 ข้าง

                                                              โรงเรียนวัดกลาง                              1 ทีมใช้ระบบปลดล๊อคจรวด 2 ท่อนด้วยลมเป็นตัวปลด

                                                              วิทยาลัยการอาชีพพานทอง               1 ทีมใช้ระบบปลดล๊อคจรวด 2 ท่อนด้วยกระบอกบูสเตอร์

                                                             เซนต์ปอลคอนแวนต์                          1 ทีมใช้ฐานยิงALADIN2L1 ด้วยการยิงแม่น

                                                            โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์            1 ที่มใช้ฐานยิง ALADIN21 ด้วยการยิงแม่น

โรงเรียนอนุบาลปัตตานี ทีมนี้ได้ผ่านเข้าสู่ 10 ทีมในรอบชิงชนะเลิศ

ทีมน้องเล็กปีนี้เป็นอนุบาลปัตตานีกับอนุบาลสาธิตมอ.ปัตตานี ในภาพเป็นฐานยิงที่ประกอบเสร็จเรียนร้อยก่อนแข่ง1วัน

ทดลองประกอบจรวดระบบท่อเพิ่มลมอยู่ข้างและปลดล๊อคลม

อนุบาลสาธิตมอ.ปัตตานี

การยิงระบบปลดล๊อคจรวด2ท่อนด้วยลม

โรงเรียนสวนศรีวิทยากับฐานยิงระบบท่อยิง 9 รู

ระยะที่ยิงได้ 254 เมตรไม่ฝ่านเข้าไป10ทีมสุดท้าย

จรวดและชุดบูสเตอร์ของนวมินทราชูทิศกทม.ในรอบคัดเลือกภาคตะวันออก

รอบคัดเลือกวัดความสูงที่ปลายจรวดไม่เกิน1.30 เมตร

ผ่านจากรอบคัดเลือกเข้ามาแต่ไม่ฝ่านเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้าย

เซนต์ปอลคอนแวนต์

ปีนี้ไม่พร้อมหลายด้านยิงไกลไม่ผ่านรอบคัดเลือกยิงแม่นผ่านเข้ามา 1 ทีม

นักเรียนและผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลปัตตานี

                                                                                                                                                                                    

Copyright (c) 2006 by chirasak phochiangrak